การเลือกเครื่องโปรเจคเตอร์เพื่อใช้ในกิจการธุรกิจเป็นเรื่องที่ไม่ยากสำหรับมือใหม่ทุกท่าน ซึ่งต่างจากการเลือกโปรเจคเตอร์เพื่อความบันเทิงที่มีรายละเอียดมากกว่า และเช่นเคยในท้องตลาดเองมีโปรเจคเตอร์หลากหลายชนิดให้เราได้เลือกซื้อเลือกหา แต่มีหัวข้อสำคัญเพียง 3-4 ข้อเท่านั้นที่จำเป็นสำหรับประกอบการพิจารณาการใช้งานในสำนักงาน ดังนี้
ข้อที่ 1 คือเรื่องความสว่างที่ต้องการ (projector brightness)
ข้อที่ 2 ความละเอียดที่ต้องการ (projector resolution)
ข้อที่ 3 เรื่องของน้ำหนักเครื่อง ในกรณีที่ต้องมีการเคลื่อนย้ายเครื่องหรือพกพาไปที่ต่างๆ
ข้อที่ 4 คือเรื่องของราคา
ความสว่างของโปรเจคเตอร์
หน่วยของ
ความสว่างที่ใช้เป็นสากลคือ ANSI lumens (american national standard institute lumens) ซึ่งเครื่อง
โปรเจคเตอร์ที่มีค่า lumens สูงมากเท่าใดก็จะมีราคาสูงมากตามไปด้วยเท่านั้น แต่จำไว้ว่าเครื่องที่มีความสว่างมากที่สุดไม่ใช่โปรเจคเตอร์ที่เหมาะสมที่สุดเสมอไป เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆที่ต้องคำนึงถึง ได้แก่
1.จำนวนคนที่อยู่ในห้องนำเสนอ เพราะยิ่งจำนวนคนมากเท่าไหร่ก็ต้องทำให้ภาพใหญ่ขึ้น แต่เมื่อภาพใหญ่ขึ้นความสว่างของภาพก็จะลดลง
2.ห้องที่เปิดเครื่องโปรเจคเตอร์มีแสงสว่างอยู่แล้วเท่าไหร่ ในห้องที่มีแสงน้อยเครื่องโปรเจคเตอร์จะให้ภาพที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ถ้าใช้เครื่องโปรเจคเตอร์ที่มีแสงสว่างมากจนเกินไปในห้องแสงน้อยก็จะทำให้ผู้ชมแสบตาได้ แต่ถ้าฉายภาพในห้องที่มีแสงสว่างมากๆก็จำเป็นต้องเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ที่มีความสว่างมากขึ้นเพื่อแข่งกับแสงที่อยู่ในห้อง
3.ฉากรับภาพที่ใช้ (projector screen) หากเราใช้ผนังห้องเป็นฉากเราต้องเลือกโปรเจคเตอร์ที่มีความสว่างมากขึ้นเพราะผนังส่วนใหญ่มีการสะท้อนแสงกลับได้น้อย แต่หากคุณใช้ฉากเฉพาะก็ใช้ความสว่างที่น้อยลง
ความละเอียดของภาพ
สำหรับหัวข้อนี้ขอแนะนำให้ดูเครื่องที่จะใช้เชื่อมต่อเข้าโปรเจคเตอร์ เช่น คุณเชื่อมต่อจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ความละเอียดหน้าจอ 800x600 ก็ควรเลือกโปรเจคเตอร์เครื่องที่มี
ความละเอียดภาพเท่ากันหรือมากกว่า แต่หากคุณใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่หน้าจอละเอียด 1024x768 แต่เลือกโปรเจคเตอร์ 800x600 ก็จะได้ภาพที่ไม่ละเอียดเท่าที่ต้องการ
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆที่เป็นคุณสมบัติที่เป็นจุดเด่นย่อยลงไปในแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ เช่น
zoom lens, shift lens เป็นต้น